(VOVworld)-ในหลายทศวรรษที่ผ่านมา ประธานฟิเดล คาสโตร ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งลัทธิวีรชนการปฏิวัติและจิตใจที่กล้าหาญแห่งการลุกขึ้นเพื่อเสรีภาพและความผาสุกที่สถิตในหัวใจของชาวเวียดนามและชาวคิวบาด้วยความเคารพรักยิ่งมาโดยตลอด ดังนั้นการจากไปของท่านฟิเดล คาสโตรก็นับเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่และสร้างความอาลัยอย่างสุดซึ้งให้แก่ชาวเวียดนามหลายรุ่น โดยเฉพาะผู้ที่เคยมีโอกาสได้พบและร่วมทำงานกับท่าน

ณ สถานทูตคิวบา ในกรุงฮานอย

นายเหงวียนยวีเกือง อุปนายกสมาคมมิตรภาพเวียดนาม-คิวบาได้กล่าวแสดงความเห็นว่า“ผมรู้สึกเสียใจมากเมื่อได้ข่าวว่าท่านประธานฟิเดล คาสโตร ได้จากไป ซึ่งในนามสมาคมมิตรภาพเวียดนาม-คิวบา เราขอแสดงความเสียใจกับประชาชนพี่น้องคิวบา และขอสัญญาว่าจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อผลักดันกิจกรรมของสมาคมเพื่อความสามัคคีกับคิวบาและผ่านทางสถานีวิทยุเวียดนามขอส่งกำลังใจถึงประชาชนคิวบา”

นับตั้งแต่เมื่อสถานทูตคิวบาประจำกรุงฮานอยได้เปิดให้เข้าแสดงความอาลัยต่อประธานฟิเดล คาสโตร วันที่28พฤศจิกายน  ในทุกวันได้มีคณะผู้แทนกระทรวง หน่วยงานและประชาชนเวียดนาม รวมทั้งเพื่อนมิตรต่างชาติได้มาเข้าแถวเพื่อไว้อาลัยผู้นำที่ยอดเยี่ยมแห่งการปฏิวัติคิวบา  สำหรับคณะผู้แทนของสถานีวิทยุเวียดนามซึ่งนำโดยนาย เหงวียนซวนฮวี รองประธานสถานีวิทยุเวียดนามก็ได้เดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจและไว้อาลัยท่านฟิเดล คาสโตร โดยได้เขียนลงในสมุดไว้อาลัยว่า " สถานีวิทยุเวียดนามขอจดจำการช่วยเหลือของท่านฟิเดล คาสโตรและประชาชนพี่น้องคิวบาเพื่อการพัฒนาของสถานีในทุกด้านรวมทั้งการสนับสนุนการกระจายเสียงของวิทยุเวียดนามในคิวบา อันเป็นการมีส่วนร่วมช่วยให้วิทยุเวียดนามสามารถปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในช่วงทำสงครามต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชเสรีภาพและสร้างสรรค์ประเทศเวียดนาม"

สำหรับผู้ที่ไม่เคยมีโอกาสเดินทางไปยังประเทศคิวอย่างนาย ดั๋งหงอกตวน ชาวฮานอย แต่ชื่อประเทศคิวบาและประธานฟิเดล คาสโตร ได้มีความคุ้นเคยกับเขาในตลอดเวลาที่ผ่านมา“ผมตื้นตันใจมาก เราเป็นรุ่นที่ผ่านช่วงสงครามกู้ชาติมาแล้วและได้ประจักกันอุปสรรคความลำบากต่างๆของประเทศในช่วงสงครามและได้รับรู้เกี่ยวกับความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ของท่านฟิเดลต่อประชาชนเวียดนาม อาจกล่าวได้ว่าท่านคือเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของชาวเวียดนาม ประเทศคิวบาแม้จะเป็นชาติเล็กๆแต่ก็มีความวีรกล้าหาญและความสัมพันธ์ระหว่างเรานั้นก็เป็นความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนมิตรที่ซื่อสัตย์ที่มีหนึ่งไม่มีสองในโลกนี้”

ส่วนนาย ดั๋งจูงเฮี้ยว นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งชาติฮานอยได้กล่าวว่า เขารู้จักประเทศคิวบาและชื่อเสียงของประธานฟิเดล คาสโตร ผ่านการบอกเล่าของปู้ย่าตายายและพ่อแม่“เมื่อได้ข่าวท่านฟิเดล คาสโตร ถึงแก่อสัญกรรม ผมก็เสียใจและอยากมาไว้อาลัยท่านที่สถานทูตคิวบาเพื่อแสดงความสำนึกในบุญคุณของท่าน ผมก็หวังว่าไม่เพียงแต่ผมเท่านั้นหากเยาวชนเวียดนามก็ต่างสำนึกในความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องอันล้ำค่านี้เพื่อมีส่วนร่วมธำรงและเสริมสร้างให้มิตรภาพเวียดนาม-คิวบาพัฒนาต่อไป”

ยากที่จะหาความสัมพันธ์ที่สนิทใกล้ชิดดั่งความสัมพันธ์ของสองประชาชาติที่ห่างไกลกันทางภูมิศาสตร์และมีวัฒนธรรมกับภาษาที่ไม่เหมือนกันอย่างเวียดนามและคิวบา ประชาชนเวียดนามรักและเคารพประธานฟิเดล คาสโตร เหมือนที่ประชาชนคิวบาเคารพศรัทธาประธานโฮจิมินห์ และก็ไม่มีใครมานั่งคิดกันว่าเพราะอะไรที่ทั้งสองชาติถึงจะรักและซื่อสัตย์กันอย่างนี้หากรู้แต่ว่ามิตรภาพความสัมพันธ์พิแศษนั้นได้ฝังลึกในจิตใจ ในความสำนึกของประชาชนทั้งสองประเทศมาโดยตลอด ในช่วงหลายปีมานี้ถึงแม้ประธาน ฟิเดล คาสโตร จะไม่ดำรงตำแหน่งผู้นำแห่งรัฐคิวบา แต่ทุกครั้งที่ผู้นำเวียดนามได้เดินทางไปเยือนคิวบาต่างก็หาโอกาสเข้าเยี่ยมประธานฟิเดล คาสโตรและล่าสุดนี้ การเยือนคิวบาเดือนพฤศจิกายนของผู้นำเวียดนามก็ถือเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเมื่อประธานประเทศเจิ่นด๋ายกวางได้เป็นผู้นำต่างประเทศคนสุดท้ายที่ได้พบปะกับผู้นำแห่งการปฏิวัติคิวบา ฟิเดล คาสโตร.