ศิลปินด่าวดิ่งจุงกับการฟื้นฟูภาพพิมพ์ไม้พื้นเมืองกิมหว่าง

(VOVWORLD) -ควบคู่กับภาพพื้นเมืองต่างๆ เช่น ภาพดงโห่ของจังหวัดบั๊กนิงห์และภาพห่างจ๊งของกรุงฮานอย ภาพกิมหว่างถือเป็นภาพพิมพ์ไม้พื้นเมืองที่มีชื่อเสียงของกรุงฮานอยในช่วงศตวรรษที่ 19 แต่ถึงปี 1915 การผลิตภาพพื้นเมืองชนิดนี้ได้รับผลกระทบจากเหตุหมู่บ้านกิมหว่างถูกน้ำท่วมครั้งใหญ่ ถึงปี 1945 ก็ไม่มีใครในหมู่บ้านผลิตภาพพิมพ์ไม้ชนิดนี้อีก ดังนั้นโครงการฟื้นฟูภาพพื้นเมืองกิมหว่างที่เริ่มขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อนได้ช่วยให้อาชีพการผลิตภาพพื้นเมืองกิมหว่างมีผู้สืบทอดรุ่นแรก ต่อไปนี้ ขอเชิญท่านพบปะกับคุณ ด่าวดิ่งจุง ผู้สืบทอดรุ่นแรกของหมู่บ้านนี้นะคะ
ศิลปินด่าวดิ่งจุงกับการฟื้นฟูภาพพิมพ์ไม้พื้นเมืองกิมหว่าง - ảnh 1 ศิลปินด่าวดิ่งจุง (Photo แถ่งกง - วีโอวี)

ท่ามกลางเสียงดนตรีที่สนุกสนานช่วงต้นปีใหม่ประเพณี ณ ศาลา กิมเงิน เลขที่ 42-44 ถนนห่างบาก ศิลปินด่าวดิ่งจุง อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นศิลปินรุ่นแรกของอาชีพการผลิตภาพพื้นเมืองกิมหว่างกำลังผลิต อธิบายและแนะนำภาพพื้นเมืองกิมหว่างต่อผู้ชม            “ภาพพิมพ์ไม้พื้นเมืองกิมหว่างต่างๆ เช่น ภาพ “เง” ถ้ามองผ่านๆจะคิดว่าทำไม่ยากแต่จริงๆแล้วทำยากมาก หลังจากที่เราพิมพ์แล้ว เรายังต้องแต่งสีเพิ่ม เพราะนี่เป็นภาพสัตว์ จึงต้องมีความชัดเจน แต่ถ้าหากเป็นภาพทิวทัศน์ ภาพเรื่องนางเกี่ยวหรือภาพขุนนาง เราไม่ต้องแต่งสีเพิ่ม เพราะจะช่วยให้มันมีลักษณะความพื้นเมืองมากขึ้น”

ศิลปินด่าวดิ่งจุง เล่าว่า หลังเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อปี 1915 แม่พิมพ์ไม้ของภาพพื้นเมืองกิมหว่างส่วนใหญ่หายไปกับสายน้ำ และชีวิตของผู้คนอยู่ในช่วงที่ลำบากจึงทำให้ความนิยมในการแขวนภาพพื้นเมืองกิมหว่างค่อยๆลดลง จำนวนศิลปินในหมู่บ้านนับวันน้อยลงและถึงปี 1945 ไม่มีใครผลิตภาพพื้นเมืองชนิดนี้อีก ปัจจุบัน มีแม่พิมพ์ไม้ภาพกิมหว่างไม่มากนักที่กำลังถูกเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์วิจิตศิลป์เวียดนาม ดังนั้นการฟื้นฟูแม่พิมพ์ไม้ก็ถือเป็นเรื่องยากสำหรับศิลปินที่สืบทอดรุ่นแรกดังคุณด่าวดิ่งจุง

ก่อนทำอาชีพนี้ ศิลปินด่าวดิ่งจุงเคยทำหลายอาชีพ ซึ่งแม้รายได้จะดีแต่ก็ไม่มั่นคง เมื่อกลับหมู่บ้านกิมหว่าง เห็นจิตกรที่เป็นสมาชิกของโครงการกำลังพยายามฟื้นฟูภาพพื้นเมืองกิมหว่างจึงสนใจเรียน จากความสามารถพิเศษ หลังการเรียนเป็นเวลา 5 เดือน เขาก็สามารถทำได้ทุกขั้นตอนในการพิมพ์ภาพพื้นเมืองกิมหว่างรวมทั้งขั้นตอนที่ต้องมีความพิถีพิถันเป็นพิเศษ แต่อย่างไรก็ตาม ในจุดเริ่มต้นนั้น ศิลปินด่าวดิ่งจุงก็ประสบความยากลำบากในการเรียนและการทำภาพพิมพ์ไม้ที่เคยสูญหายนี้            “เมื่อเริ่มเรียน การทำยากมากและทำเสียหลายภาพ แต่ผมก็พยายามวิจัยค้นคว้าด้วยตนเองเพื่อแสวงหาจุดเด่นของภาพ บางทีการพิมพ์เอียงไปนิดเดียว ผมก็ไม่พอใจ จึงพยายามทำให้ได้หรือบางทีก็พักเพื่อพิจารณาว่า เราพลาดตรงไหนเพื่อแก้ไข ดังนั้น การผลิตภาพพื้นเมืองกิมหว่างต้องใช้เวลามาก แต่ละวัน ผมทำไม่ถึง 10 ภาพแต่ถ้าหากยังไม่สวยก็จะทำหลายครั้งจนกว่าจะพอใจ”

ศิลปินด่าวดิ่งจุงกับการฟื้นฟูภาพพิมพ์ไม้พื้นเมืองกิมหว่าง - ảnh 2 ภาพกิมหว่างได้รับความนิยมจากผู้ชม (Photo แถ่งกง - วีโอวี)

เมื่อก่อนนี้ เพื่อที่จะได้ภาพพื้นแดงที่มีสีสันสดใสสวยงาม ผู้ทำภาพกิมหว่างมักจะใช้ไม้ขนุน ไม้จันทน์ในการแกะเป็นแม่พิมพ์ไม้ ส่วนกระดาษก็ซื้อจากถนนห่างหม๊าในย่านถนนโบราณ 36 สายของกรุงฮานอย ขั้นตอนการทำก็คล้ายๆกับการทำภาพพื้นเมืองดงโห่ตรงที่ต้องใช้แม่พิมพ์ไม้ทาน้ำให้เปียกแล้วพิมพ์บนกระดาษให้ได้กรอบลายภาพต่างๆที่ต้องการแล้วนำไปตากแดดให้แห้ง หลังจากนั้นก็นำมาเติมสีให้แก่ภาพต่างๆเพื่อให้ดูมีชีวิตชีวาโดดเด่นมากขึ้น โดยพู่กันที่ใช้ทาสีต้องทำจากฟางข้าวเหนียวเพื่อให้ไม่นุ่มเกินไป ดังนั้น เมื่อชมภาพกิมหว่างผู้ชมอาจคิดว่าจะทำง่ายแต่จริงๆต้องการความพิถีพิถันและยากกว่าภาพพื้นเมืองชนิดอื่นๆ            “ถ้าหากเปรียบเทียบกับภาพพื้นเมืองดงโห่และภาพพื้นเมืองห่างจ๊ง เราสามารถเห็นได้ว่า ภาพพื้นเมืองดงโห่พิมพ์บนกระดาษสาที่ทำจากเปลือกต้นไม้ ภาพพื้นเมืองห่างจ๊งถูกวาดบนกระดาษสีขาว ส่วนภาพพื้นเมืองกิมหว่างถูกพิมพ์บนกระดาษพื้นแดง โดยวิธีการพิมพ์ก็แตกต่างกับภาพดงโห่คือใช้แม่พิมพ์ด้านหลังและหลังจากพิมพ์เสร็จแล้วก็ต้องเติมสีให้แก่ภาพด้วย ในขณะที่พิมพ์ เราก็ต้องพิมพ์หลายครั้งแต่สีต้องเหมือนกันและขั้นสุดท้ายคือการพิมพ์สีดำบนภาพ”

หลังการวิจัยฟื้นฟูเป็นเวลา 3 ปี ภาพที่ศิลปินด่าวดิ่งจุงผลิตได้รับความนิยมจากลูกค้า โดยเฉพาะในช่วงตรุษเต๊ตประเพณีเวียดนามไม่สามารถผลิตได้ทันความต้องการของลูกค้า คุณหว่า ผู้ที่รักภาพพื้นเมืองกิมหว่างให้ข้อสังเกตว่า            “ในภาพพื้นเมืองชนิดต่างๆ ผมชอบภาพกิมหว่างที่สุดเพราะแม้ดูเรียบง่ายแต่มีอารมณ์มาก ส่วนหัวข้อก็ใกล้ชิดกับเกษตรกร เช่น ภาพหมูและภาพไก่ สำหรับผมเอง ผมชอบมากเพราะมีลักษณะของศิลปะและทันสมัย สีสันไม่มากนัก มีแค่สีแดง สีดำและสีขาว แต่สวยมาก”

โครงการฟื้นฟูภาพพื้นเมืองกิมหว่างได้รับการขานรับอย่างเต็บที่จากทางการปกครองทุกระดับ โดยเฉพาะชาวบ้านกิมหว่างดั่งความปรารถนาของศิลปินด่าวดิ่งจุงและศิลปินคนอื่นๆในหมู่บ้านกิมหว่างบนเส้นทางแห่งการฟื้นฟูภาพพิมพ์ไม้พื้นเมืองที่เคยสูญหายไปแล้วนี้.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด