ปัจจัยความสำเร็จของแต่ละคนไม่ได้อยู่ที่ใบรับรองการศึกษา แต่อยู่ที่การเลือกอาชีพที่เหมาะสมกับความสามารถและจุดเด่นของตนเอง นี่คือความคิดเห็นของคุณเหงียนถิเกี่ยวฮวา อาศัยอยู่ที่นครเตินอาน จังหวัดลองอานและเพื่อนๆหลายคนในวัยเดียวกัน

เกี่ยวฮวาสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์นครโฮจิมินห์แต่เธอไม่สามารถเข้าเรียนเพราะฐานะครอบครัวไม่สามารถจ่ายค่าเทอมได้ ดังนั้นเกี่ยวฮวาจึงเลือกเข้าเรียนสาขาบัญชีที่วิทยาลัยอาชีพและเทคโนโลยี Ladec หลังจากนั้น 2 ปี เธอก็เรียนจบระดับเกียรตินิยมอันดับ 1 และได้รับเป็นพนักงานธนาคารเวียดนามถิงเวืองสาขาจังหวัดลองอาน ซึ่งการที่เธอสามารถหางานทำที่ดีหลังเรียนจบมีเงินเดือนและมีโอกาสสะสมประสบการณ์ได้ทำให้เธอสามารถปฏิบัติความฝ่าฝันคือเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้ เหงียนถิเกี่ยวฮวาเผยว่า “เยาวชนบางคนตั้งเป้าไว้ว่า ต้องเรียนและจบมหาวิทยาลัยแต่ดิฉันไม่ตีกรอบว่าจะต้องเรียนระดับมหาวิทยาลัย วิทยาลัยหรือโรงเรียนอาชีวศึกษา ดิฉันสนใจแค่เรื่องที่จะได้เรียนในวิชาที่ตนชอบและเมื่อเรียนจบก็สามารถหางานทำได้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว”

ส่วนคุณหวอถิหมงทือ จบโรงเรียนอาชีวศึกษาเวียดนาม – ญี่ปุ่นได้เล่าถึงเส้นทางที่เธอเลือกเพื่อสร้างอนาคตว่า เธอเข้าเรียนโรงเรียนแห่งนี้เพราะเหมาะกับความสามารถของตัวเองแถมโรงเรียนตั้งอยู่ใกล้บ้านจึงช่วยลดค่าใช้จ่ายและการเรียนแบบนี้ใช้เวลาแค่สองสามปีก็จบ จึงสามารถหางานทำได้เร็ว มีเงินเลี้ยงชีพ พร้อมทั้งมีโอกาสเรียนต่อไปในระดับที่สูงกว่า ทักษะอาชีพที่ดีได้ช่วยให้เธอมีรายได้พอสมควรจากการเป็นนักบัญชีของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดลองอาน เธอเผยว่า “ดิฉันมีความเชื่อมั่นต่อเส้นทางที่ตัวเองได้เลือก การเรียนจากโรงเรียนอาชีวศึกษาก็สามารถหางานทำดีได้ถ้าหากเรามีความตั้งใจฟันฝ่าอุปสรรค”

เพื่อตอบสนองความต้องการในการเรียนและการสอน โรงเรียนอาชีวศึกษาหลายแห่งยังขยายความเชื่อมโยงและร่วมมือกับหน่วยงานและสถานประกอบการต่างๆตามรูปแบบ “ใบสั่งบุคลากร” เพื่อช่วยให้นักเรียนมีโอกาสฝึกงานและสะสมประสบการณ์ นายเหงียนลองเตือย อธิการบดีโรงเรียนอาชีวศึกษาเวียดนาม – ญี่ปุ่นเผยว่า “เพื่อเตรียมให้แก่การทำงานในอนาคต นักเรียนทุกคนได้ฝึกงานในสถานประกอบการต่างๆ และเมื่อใกล้ถึงเวลาจบการศึกษา บางคนก็ได้รับการบรรจุเป็นพนักงานของสถานประกอบการเหล่านี้”

ปัจจุบันนี้ ในจังหวัดลองอาน มีโรงเรียนอาชีวศึกษาเกือบ 10 แห่ง ซึ่งมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแหล่งบุคลากรที่มีฝีมือดีและเปิดโอกาสให้แก่นักเรียนที่ไม่สามารถเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้ นายเหงียนดึ๊กเหงีย รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งชาติโฮจิมินห์กล่าวว่า “ต้องเปลี่ยนค่านิยมเกี่ยวกับใบรับรองการศึกษาในสังคมเพราะโปรแกรมการเรียนในโรงเรียนอาชีวศึกษาปัจจุบันใช้เวลาไม่นานและนักเรียนมีประสบการณ์เนื่องจากได้ฝึกงานในบริษัทต่างๆ ดังนั้นนักเรียนเหล่านี้จะสามารถหางานทำได้ง่ายกว่า นี่คือแนวโน้มที่ผู้ปกครองและนักเรียนควรปฏิบัติตาม”

สำหรับนักเรียนหลายคนในปัจจุบัน การจบมหาวิทยาลัย วิทยาลัยหรือโรงเรียนอาชีวศึกษาไม่สามารถเป็นกุญแจเปิดอนาคตที่สำคัญที่สุดหากสิ่งที่สำคัญมากกว่าก็คือทักษะวิชาชีพความสามารถในการทำงานและการที่จะมีงานทำที่ดี ซึ่งถือเป็นการเปิดอนาคตอันสดใสให้แก่พวกเขา./.