เรื่องราวของอาสาสมัครพิเศษที่อยู่แถวหน้าในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19
Minh Tham- VOV -  
(VOVWORLD) -ปัจจุบัน ณ นครโฮจิมินห์ ผู้ที่ได้รับการรักษาจนหายจากโรคโควิด -19ได้สมัครเข้าร่วมกิจกรรมการป้องกันการแพร่ระบาดในท้องถิ่นต่างๆ จากการที่มีภูมิคุ้มกันและชำนาญพื้นที่ในเขตที่อยู่อาศัยและเข้าใจความรู้สึกของผู้ป่วย บรรดาอาสาสมัครได้มีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งในการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19
นาย เหงวียนมิงดึ๊กนำถังออกซิเจนไปให้แก่ผู้ป่วย |
ในตลอดครึ่งเดือนที่ผ่านมา กลุ่มช่วยเหลือออกซิเจนฟรีของกองเยาวชนเขต 4 นครโฮจิมินห์มีสมาชิกคนใหม่นั่นคือนาย เหงวียนมิงดึ๊ก นักเรียนชั้นม. 5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายเหงวียนหึวเถาะ แม้จะเป็นสมาชิกที่มีอายุน้อยที่สุดแต่นาย เหงวียนมิงดึ๊กมีความกระตือรือร้นทุ่มเทเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ นาย เหงวียนมิงดึ๊กติดโควิด -19 เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม เขาได้ทำการรักษาตัวที่บ้านและทำตามคำแนะนำของแพทย์ ภายหลัง 10 วัน นาย ดึ๊กก็หายจากโควิด -19 หลังจากที่อ่านข่าวเกี่ยวกับผู้ที่หายจากโควิด -19 อาสาทำงานในโรงพยาบาลต่างๆ นาย ดึ๊กได้ตัดสินใจสมัครทำงานให้แก่กองเยาวชนเขต 4 ซึ่งนาย ดึ๊กได้รับชุดพีพีอี เข้าร่วมการฝึกอบรมวิธีใช้ถังออกซิเจนอย่างปลอดภัย เมื่อได้รับการร้องขอจากผู้ป่วย นายเหงวียนมิงดึ๊กพร้อมสมาชิกคนอื่นๆจะนำถังออกซิเจนไปให้แก่ผู้ป่วย เนื่องจากอยู่อาศัยที่เขต 4 นาย ดึ๊กและสมาชิกคนอื่นๆจึงชำนาญเส้นทางในเขตนี้และสามารถนำถังออกซิเจนไปให้แก่ผู้ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว นาย เหงวียนมิงดึ๊กเผยว่า
“ผมอ่านข่าวว่า มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ผมอยากมีส่วนร่วมเพื่อขจัดการแพร่ระบาดโดยเร็ว ผมเคยติดโควิดแล้วจึงมีภูมิคุ้มกัน แม้จะเหน็ดเหนื่อยแต่ผมรู้สึกดีใจเมื่อสามารถนำถังออกซิเจนไปให้แก่ผู้ป่วยได้ทันเวลา”
นาย เจิ่นก๊วกต๊วน แจกผักให้แก่ประชาชนในแขวงลิงซวน เมืองถูดึ๊ก |
ส่วนในเขตชุมชนที่ 3 แขวงลิงซวน เมืองถูดึ๊ก ในรอบเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา ประชาชนที่นี่มีคุ้นเคยกับนาย เจิ่นก๊วกต๊วน สมาชิกของกลุ่มโควิดในชุมชน ครอบครัวนาย ต๊วนเคยติดโควิด –19และได้ผ่านช่วงเวลาที่ต้องยื้อแย่งชีวิตจากโควิด -19 ดังนั้น นาย ต๊วนจึงอยากอยู่เคียงข้างกับชุมชนเพื่อขจัดการแพร่ระบาด ในช่วงแรกที่ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างและไม่ชุมนุม ประชาชนยังไม่เข้าใจสิ่งที่นายต็วนทำจึงไม่ให้ความร่วมมือ แต่จากความพยายามในที่สุดประชาชนก็เข้าใจและปฏิบัติตาม นาย เจิ่นก๊วกต๊วนได้เผยว่า
“เพื่อนคนหนึ่งชวนผมเข้าร่วมกลุ่มประชาสัมพันธ์งานด้านการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ในชุมชน มีบางทีการประชาสัมพันธ์ประสบอุปสรรคเนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ขายของริมถนนเพื่อหาเงิน ผมต้องอธิบายให้เข้าใจว่า การแพร่ระบาดมีความซับซ้อนมาก ทุกคนควรพยายามอยู่ที่บ้านและปฏิบัติตามคำสั่งของประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์”
ส่วนพี่น้องสองคนคือดิงยางเติมและดิงบ๋าวห่งก็ได้สมัครเข้าร่วมกิจกรรมด้านการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด –19ในท้องถิ่น ครอบครัวของนางเติมและห่งอาศัยอยู่ในซอยเล็กๆในแขวงที่ 19 เขตบิ่งแถง ซึ่งเป็นเขตที่อยู่อาศัยของแรงงานอิสระและมีประชากรหนาแน่น ดังนั้นโรคโควิด -19 จึงแพร่ระบาดเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เขตชุมชนที่ครอบครัวเติม-ห่งอาศัยถูกล็อกดาวน์เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่งครอบครัวของเติมและห่งมีสมาชิก 8 คนติดโควิดในจำนวนสมาชิกทั้งหมด 11 คน หลังจากที่ทำการแยกตัวและได้รับการรักษาจนหาย เติมและห่งจึงชวนกันเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา ในช่วงแรก พี่น้องสองคนทำหน้าที่เก็บข้อมูลและช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในจุดเก็บตัวอย่างและจุดฉีดวัคซีนในเขตที่ 8 หลังจากที่นครโฮจิมินห์เพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติมาตรการเว้นระยะห่าง ทั้งสองพี่น้องจึงขอเข้าร่วมการไปซื้อของให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น คุณดิงบ๋าวห่งได้เผยว่า
“เมื่อเขตที่อยู่อาศัยของดิฉันถูกล็อกดาวน์ มีคุณอาคุณป้ามาช่วยซื้อของให้ ตอนนี้ เขตที่อยู่อาศัยของดิฉันยุติการล็อกดาวน์แล้ว ดิฉันอยากช่วยเหลือทุกคน แม้จะเหน็ดเหนื่อยแต่ดิฉันดีใจมาก”
สำหรับส่วนร่วมของอาสาสมัครที่เคยเป็นผู้ป่วยโควิด –19ในกิจกรรมการป้องกันการแพร่ระบาดในท้องถิ่น นาง เจิ่นเถียนบ๋าวแคง นายกสมาคมสตรีแขวงที่ 19 เขตบิ่งแถงได้เผยว่า
“บรรดาอาสาสมัครมีความกระตือรือร้นในการทำงาน พวกเขาจำทางเก่งจึงเป็นประโยชน์ต่อการส่งของให้แก่ประชาชนได้อย่างรวดเร็ว การเข้าร่วมของกองกำลังนี้ได้มีส่วนช่วยลดภาระให้แก่ท้องถิ่นเป็นอย่างมาก”
นาย เหงวียนมิงดึ๊ก เจิ่นก๊วกต๊วนและสองพี่น้องยางเติมและบ๋าวห่งเป็นส่วนหนึ่งของผู้ที่เคยติดโควิด -19 แต่หายแล้วที่สมัครทำงานในท้องถิ่น ซึ่งพวกเขาได้ส่งเสริมจิตใจแห่งจิตอาสาเพื่อระดมแหล่งพลังของชุมชน ช่วยให้นครโฮจิมินห์สามารถควบคุมและขจัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด –19ให้ได้โดยเร็ว.
Minh Tham- VOV