เส้นทางเข้าสมรภูมิเดียนเบียนของหน่วยปืนใหญ่ขนาด105มม.
Minh Ngoc - VOV5 -  
(VOVworld)-เวลา17.00นวันที่13มีนาคมปี1954 ปืนใหญ่ขนาด105มม.รวม24กระบอกได้เปิดฉากยิงในยุทธนาการณ์เดียนเบียนฟู ซึ่งทำให้กองทัพฝรั่งเศสที่อยู่ในเดียนเบียนฟูตอนนั้นตกอยู่ในภาวะวุ่นวายสับสนและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะนายพลฝรั่งเศส จาร์เลส พีรอท เคยประกาศอย่างหนักแน่นว่า “กองทัพเวียดมิงห์ไม่สามารถนำปืนใหญ่เข้าสมรภูมินี้ได้และหากพวกเขาบุกเข้ามาที่นี้เราจะบดขยี้ทันที”
|
ปืนใหญ่ขนาด105มม. |
(VOVworld)-เวลา17.00นวันที่13มีนาคมปี1954 ปืนใหญ่ขนาด105มม.รวม24กระบอกได้เปิดฉากยิงในยุทธนาการณ์เดียนเบียนฟู ซึ่งทำให้กองทัพฝรั่งเศสที่อยู่ในเดียนเบียนฟูตอนนั้นตกอยู่ในภาวะวุ่นวายสับสนและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะนายพลฝรั่งเศส จาร์เลส พีรอท เคยประกาศอย่างหนักแน่นว่า “กองทัพเวียดมิงห์ไม่สามารถนำปืนใหญ่เข้าสมรภูมินี้ได้และหากพวกเขาบุกเข้ามาที่นี้เราจะบดขยี้ทันที” คำถามที่ว่า กองทัพเวียดมิงห์ได้ขนปืนใหญ่ขนาด105มม.ซึ่งเป็นอาวุธที่ทันสมัยที่สุดในตอนนั้นอย่างเงียบๆได้อย่างไรก็เป็นเรื่องที่หลายคนต้องการไขปริศนา ในรายการวันนี้ นักข่าววิทยุเวียดนามจะพาท่านไปพบปะกับอดีตทหารช่างและทหารปืนใหญ่กองพลปืนใหญ่351 ซึ่งเป็นหน่วยทหารที่รับผิดชอบหน้าที่ยุทธศาสตร์สำคัญนี้
|
พันเอก เหงวียนดิ่งวัน |
แม้จะผ่านมาแล้ว60ปีแต่ความทรงจำเกี่ยวกับการเตรียมพร้อมให้แก่ยุทธนาการณ์เดียนเบียนฟูและการสู้รบที่ดุเดือด56วัน56คืนที่สมรภูมิเดียนเบียนนั้นยังคงอยู่ในความทรงจำของคุณ เหงวียนดิ่งวัน อดีตหัวหน้าฝ่ายการเมืองแห่งกองร้อย126สังกัดกองพลปืนใหญ่351 ปีนี้เขาอายุเกือบ90ปีแล้วและสังขารก็โรยราตามวัย แต่แววตาของเขายังคงสะท้อนให้เห็นถึงความภาคภูมิใจเมื่อเล่าเรื่องความทรงจำเมื่อหลายสิบปีก่อนตอนที่หน่วยทหารของเขากว่า150คนได้รับคำสั่งไปรับปืนใหญ่ที่จังหวัดลาวกายตั้งแต่วันที่3ตุลาคมปี1953“พวกเราขนปืนใหญ่จากจ.ลาวกายมาที่จ.เอียนบ๊ายแล้วนำไปซ่อนไว้ที่ฐานที่มั่น ณ จ.เตวียนกวาง หลังจากนั้นก็ลากขึ้นเดียนเบียนฟู ทุกอย่างต้องทำอย่างลับๆ เราคลุมปืนทุกกระบอกด้วยกิ่งไม้ จากลาวกายไปที่เอียนบ๊ายมีแต่ทางรถไฟเราต้องขนปืนด้วยรถราง”
แต่นั่นคือแผนการที่วางไว้ซึ่งเมื่อปืนใหญ่มากถึงลาวกายก็มีข่าวฝรั่งเศสทิ้งระเบิดทำลายสะพานรางรถไฟ40แห่งทำให้แผนการขนปืนใหญ่ที่เตรียมไว้ล้มเหลว ในสภาวการณ์นั้นหน่วยทหารของคุณวันก็รับคำสั่งใหม่คือขนปืนใหญ่ทางแม่น้ำ ซึ่งคุณวันบอกว่าทุกคนก็พยายามหาทางแก้ไขแล้วแต่ไม่มีไม้เพื่อซ่อมสะพานส่วนถ้าใช้ไม้ใผ่แทนก็ไม่สามารถรับน้ำหนักของปืนใหญ่ที่แต่ละกระบอกหนักกว่า2ตันได้และในตอนนั้นการตัดสินใจแยกปืนออกเป็นส่วนๆเพื่อทำให้การขนย้ายง่ายขึ้นก็ทำได้ไม่ง่ายนักและต้องคิดอย่างรอบคอบเพราะในประวัติศาสตร์โลกก็ไม่เคยมีใครพูดถึงการแยกส่วนของปืนใหญ่ชนิดนี้มาก่อน คุณเหงวียนจ๋อง ทหารปืนใหญ่ของกองพลปืนใหญ่351ได้เผยว่า“ปืนใหญ่ชนิดนี้ไม่เหมือนชนิดอื่นที่สามารถแยกส่วนเพื่อขนย้ายได้ ดังนั้นขณะที่แยกส่วนปืนเราก็กลัวว่าจะประกอบกลับเหมือนเดิมไม่ได้และสามารถใช้งานได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ทุกคนก็พยายามอย่างเต็มที่ หลังจากขนปืนใหญ่ผ่านทางแม่น้ำไปที่จ.เอียนบ๊ายได้สำเร็จเราก็เตรียมจุดพักกลางทางในป่าเพื่อประกอบปืนและทดลองยิงเมื่อผลออกมาตรงเป้าหมายทุกคนก็ดีใจจนร้องให้เพราะนี่คือแสนยานุภาพที่เข้มแข็งที่สุดของกองทัพประชาชนเวียดนามในตอนนั้น”
|
เส้นทางจากจ.เตวียนกวางสู่เดียนเบียนมีความลำบากมาก |
ใน56วันคืนของยุทธนาการณ์เดียนเบียนฟู กองทัพเวียดนามได้ใช้ปืนใหญ่ขนาด105มม.24กระบอก ปืนใหญ่ชนิดลำกล้องยาว24กระบอก ปืนใหญ่ชนิดใช้บนภูเขา20กระบอก ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานขนาด37มม. 12 กระบอกและปืนครก20กระบอก ซึ่งเป็นอาวุธที่มีอนุภาพทำลายล้างที่สำคัญที่สุดเพื่อสร้างเป็นชัยชนะเดียนเบียนฟูที่ก้องกระเดื่องไปทั่วโลก.
จากจ.เอียนบ๊าย ปืนใหญ่ขนาด105มม.รวม24กระบอกก็ได้มาถึงฐานที่มั่นที่จ.เตวียนกวาง จนถึงกลางเดือนมกราคมปี1954หน่วยทหารปืนใหญ่45สังกัดกองพลปืนใหญ่351ก็พร้อมลากปืนใหญ่เข้าสู่เดียนเบียนฟู ทุกขั้นตอนได้ดำเนินไปอย่างเงียบๆเพื่อรักษาความลับให้ถึงนาทีสุดท้าย เส้นทางจากจ.เตวียนกวางสู่เดียนเบียนมีระยะทางเพียง300กิโลเมตรแต่มีความลำบากมากเพราะลักษณะทางภูมิศาสตร์ของเขตนี้เป็นเขตเขาสูงชัน ถนนเต็มไปด้วยดินโคลนที่ชื้นแฉะ มีช่องเขาหลายช่วงลาดชั้นมากเหมือนจะไม่สามารถผ่านไปได้ ซึ่งตอนนั้นทหารแต่ละนายต่างบอกตัวเองว่าต้องตั้งใจให้เต็มที่เพราะสมรภูมิข้างหน้ากำลังรออยู่ คุณเหวียนจ๋องเผยว่า“ปืนใหญ่แต่ละกระบอกใช้ทหารลากร้อยคน ระยะทางที่เราไปในแต่ละคืนนั้นได้ไม่กี่เมตร บรรยากาศในป่าเขานั้นทึบมืดมาก ข้างหนึ่งคือเขาข้างหนึ่งคือเหวลึก มีอยู่หลายครั้งที่ปืนลื่นตกลงด้านล่างมีทหารหลายนายต้องอาสาเข้าขัดเพื่อไม่ให้ปืนตกเขา ซึ่งเราก็เสียเพื่อนร่วมรบไปหลายคนโดยไม่สามารถทำอะไรได้เลย รู้แต่ว่าต้องกลั้นน้ำตาและพยายามมุ่งหน้าต่อไป”
ภายหลังที่ใช้เวลาลากปืนใหญ่อย่างยากลำบากกว่า1เดือนในที่สุด ปืนใหญ่ทั้ง24กระบอกก็มาถึงเดียนเบียนฟูและถูกซ่อนไว้ในอุโมงลับที่หน่วยทหารช่างของคุณวันได้ขุดเตรียมไว้ก่อนแล้ว คุณวันบอกว่า“หน่วยทหารของเรารับหน้าที่ขุดอุโมงกว้าง5เมตรลึก7เมตรเข้าไปใต้เชิงเขา สามารถทนแรงระเบิดของกระสูนปืนใหญ่105มม.ได้ เพื่อเป็นที่เก็บปืนใหญ่ นอกจากนั้นจะต้องสร้างสนามปืนปลอมในหลายที่เพื่อเพิ่มความสับสนให้แก่ศัตรู โดยเราใช้ระเบิดฝังตามสถานที่ต่างๆเมื่อหน่วยปืนใหญ่ของเรายิงก็จุดชนวนให้ระเบิดขึ้นพร้อมกันทำให้ทางกองทัพฝรั่งเศสไม่สามารถจับตำแหน่งการยิงได้และหาเป้ายิงตอบโต้ไม่ถูก สนามปืนใหญ่ของเราจึงมีความปลอดภัย”
ทหารช่างเหงวียนดิ่งวันตอนนั้นปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นพันเอกและมีหลานถึง7คน เมื่อมีโอกาสชุมนุมทั้งครอบครัว เขาก็มักจะเล่าเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับการต่อสู้อย่างดุเดือดและรุ่งโรจน์ที่สมรภูมิเดียนเบียนฟู เมื่อลาจากพวกเราคุณวันก็กล่าวด้วยความซาบซึ้งใจจนน้ำตาคลอเบ้าว่า เขาอยากมีโอกาสไปเยือนเดียนเบียนฟูอีกครั้งเพื่อจุดธูป ณ สุสานเพื่อนร่วมรบและรำลึกถึงช่วงเวลาที่น่าจดจำ ถึงทหารที่ได้สละเลือดเนื้อเพื่อเอกราช เสรีภาพของประชาชาติในทุกวันนี้./.
Minh Ngoc - VOV5