(VOVWORLD) - บ่าเหรียะ หวุงเต่า มีสภาพภูมิอากาศที่อบอุ่นและเป็นหนึ่งในเขตเศรษฐกิจหลักของภาคใต้เวียดนาม ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่ช่วยให้จังหวัดพัฒนาการท่องเที่ยวและมีโอกาสร่วมมือกับเครือบริษัทและสถานประกอบการรายใหญ่จากต่างประเทศ
นคร หวุงเต่า มีโอกาสเป็นศูนย์การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพระดับโลก |
จากความได้เปรียบของตัวเมืองริมฝั่งทะเลที่คล่องตัวและเป็นศูนย์การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพระดับโลก ในหลายปีมานี้ พร้อมกับเมืองญาจางและฟู้ก๊วก หวุงเต่าได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจของนักลงทุนระหว่างประเทศในด้านการท่องเที่ยว
คาดว่า ในปี 2024 นี้ จังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่าจะยังคงประสบผลสำเร็จในการปฏิบัติเป้าหมายต่างๆด้านการท่องเที่ยวตามแผนที่วางไว้โดย ณ ปัจจุบันนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับปี 2023 โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.46 ซึ่งเป็นผลจากการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในต่างประเทศพร้อมกับการขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวกับตลาดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ เช่น สิงคโปร์ อินเดีย สาธารณรัฐเกาหลีและออสเตรเลีย โดยเมื่อปีที่แล้ว จังหวัดฯ ได้ให้การต้อนรับคณะปฏิบัติงานของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียและเมืองซาชอน ประเทศสาธารณรัฐเกาหลีที่มาเที่ยวและแสวงหาโอกาสร่วมมือในการท่องเที่ยว โดยในการหารือ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นถึงศักยภาพของความร่วมมือระหว่างกัน นาย หว่างหงอกลิงห์ รองประธานสมาพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า กล่าวว่า
“ นอกจากเชื่อมโยงในด้านการค้าขาย เรายังมีความประสงค์ที่จะได้รับการสนับสนุนและการเชื่อมโยงจากรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียในการฝึกอบรมแหล่งบุคลากรที่มีคุณภาพสูง บริษัทนำเที่ยวเวียดนามอาจจัดโปรแกรมและทัวร์ที่มีคุณภาพสูงเพื่อสร้างความเชื่อมโยงระหว่างสองท้องถิ่น ฤดูหนาวที่รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียหนาวมาก ส่วนสภาพอากาศที่จังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า อบอุ่นตลอดทั้งปี ดังนั้น มีโอกาสเป็นอย่างมากที่การเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวทางทะเลระหว่างสองฝ่ายจะกลายเป็นความจริง”
นอกจากความร่วมมือในระดับประเทศ ก็ยังมีบริษัทที่มีชื่อเสียงทั้งภายในและต่างประเทศเลือกมาลงทุนในจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า โดยหุ้นส่วนต่างชื่นชมความคล่องตัวในด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจังหวัด โดยเฉพาะเมืองหวุงเต่า พร้อมทั้งแสดงความประสงค์ที่จะขยายความร่วมมือไปยังหน่วยงานอื่นๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ สินค้าเกษตรเฉพาะถิ่น เขตการเกษตรอัจฉริยะ โดยมีเครือบริษัทรายใหญ่ๆ ของโลกเข้ามาลงทุน เช่น เครือบริษัท Hyosung เครือบริษัท CJ และเครือบริษัท Samsung ของสาธารณรัฐเกาหลี เครือบริษัท Austal ของออสเตรเลีย เครือบริษัท Marubeni ของญี่ปุ่นและเครือบริษัท Vard ของนอร์เวย์ เป็นต้น
รายการแสดงศิลปะที่น่าประทับใจในนคร หวุงเต่า |
เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน ทางการจังหวัดฯ ได้เตรียมโครงสร้างพื้นฐานในเขตนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ นาย เหงวียนกงวิงห์ รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า เผยว่า ทางจังหวัดฯ ได้เน้นลงทุนปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมให้มีความพร้อมเพรียง มีการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งทางบก ทางรถไฟและทางทะเล โดยเน้นเสร็จสิ้นการก่อสร้างกิจการหลักๆ เช่น ถนนไฮเวย์เบียนหว่า – หวุงเต่า ถนนวงแหวนหมายเลขที่ 4 ช่วงผ่านจังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่า สะพานเฟือกอาน ถนนเลียบชายฝั่งทะเลหวุงเต่า – บิ่งห์โจว และถนนที่เชื่อมระหว่างตัวเมืองกับพื้นที่ที่กำลังพัฒนาในจังหวัดฯ
“จังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า เน้นลงทุนในเขตนิคมอุตสาหกรรมและเขตไฮเทค คอมเพล็กซ์อุตสาหกรรม - บริการ – ตัวเมืองตามรูปแบบใหม่ โดยรัฐบาลได้อนุมัติให้จังหวัดฯ จัดทำร่างโครงการเหล่านี้ ดังนั้น เมื่อนักลงทุนมาที่นี่ ทางจังหวัดฯ ก็ได้เตรียมความพร้อมในด้านโครงสร้างพื้นฐานและวางผังให้บริการนักลงทุน”
นาย เหงวียนกงวิงห์ เผยว่า เพื่อดึงดูดนักลงทุนรายใหญ่ ทางจังหวัดฯ ยังเน้นลดขั้นตอนระเบียบทางราชการเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในจังหวัดฯ
“ทางการจังหวัดได้ปฏิบัติระบบวันสต๊อปเซอร์วิสในการทำระเบียบราชการเพื่อลดเวลาให้แก่สถานประกอบการในการจดทะเบียนลงทุน นอกจากนี้ ทางจังหวัดฯ ก็ผลักดันการมอบที่ดิน ให้เช่าที่ดินและใบรับรองสิทธิ์การใช้ที่ดินให้แก่สถานประกอบการที่ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนและดึงดูดนักลงทุนมากขึ้น”
ที่น่าสนใจคือ ทุกๆ สัปดาห์ ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดฯ ได้มีการพบปะกับสถานประกอบการเพื่อรับฟังและแก้ไขอุปสรรคให้แก่นักลงทุน นอกจากนี้ ทางจังหวัดยังปฏิบัติแนวทางดึงดูดการลงทุนที่มีการคัดเลือกที่สอดคล้องกับแนวโน้มของโลก เช่น เทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ใช้แรงงานมากเกินไป เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และใช้พลังงานน้อย เป็นต้น โดยทางจังหวัดฯ เน้นให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่ออุตสาหกรรมแปรรูปและการผลิต สนับสนุนและพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่เป็นจุดแข็งของจังหวัดในด้านการกลั่นน้ำมันและการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าพลังงานลม ผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง อุตสาหกรรมแห่งสีเขียว พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนพร้อมกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ทางจังหวัดฯ ยังส่งเสริมจุดแข็งในด้านโลจิตสติกส์ มุ่งสู่การพัฒนาเป็น Hubs logistics ของภูมิภาคและโลก พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงระหว่างเขต เชื่อมโยงกับเส้นทางคมนาคมสำคัญๆ ของประเทศเพื่อดึงดูดนักลงทุนในด้านนี้มากขึ้น
การเป็นฝ่ายรุกในการดึงดูดนักลงทุนอย่างเข้มแข็งบวกกับการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุน ประกอบธุรกิจและการระดมแหล่งเงินลงทุนให้แก่การพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพได้ช่วยให้จังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า ติดกลุ่มท้องถิ่นนำหน้าของประเทศในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ.