พัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนเพื่อเพิ่มพลังให้แก่เศรษฐกิจของประเทศ

(VOVworld) –  เศรษฐกิจภาคเอกชนนับวันมีบทบาทสำคัญเนื่องจากได้มีส่วนร่วมในผลิตภัณฑ์มวล รวมภายในประเทศในระดับสูงและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายปีที่ผ่านมาดัง นั้นการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนเพื่อเพิ่มพลังให้แก่เศรษฐกิจของประเทศจึงเป็น หนึ่งในหน้าที่สำคัญที่รัฐบาลได้วางไว้ในเวลาข้างหน้า
 
(VOVworld) –  เศรษฐกิจภาคเอกชนนับวันมีบทบาทสำคัญเนื่องจากได้มีส่วนร่วมในผลิตภัณฑ์มวล รวมภายในประเทศในระดับสูงและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายปีที่ผ่านมาดัง นั้นการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนเพื่อเพิ่มพลังให้แก่เศรษฐกิจของประเทศจึงเป็น หนึ่งในหน้าที่สำคัญที่รัฐบาลได้วางไว้ในเวลาข้างหน้า
พัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนเพื่อเพิ่มพลังให้แก่เศรษฐกิจของประเทศ - ảnh 1
เศรษฐกิจภาคเอกชนนับวันมีบทบาทสำคัญ( Photo:VOV )
จนถึงสิ้นปี๒๐๑๔ เวียดนามมีสถานประกอบการที่จดทะเบียนจัดตั้งใหม่๗๔,๘๔๒แห่ง รวมยอดเงินทุนจดทะเบียนกว่า๔๓๒ล้านล้านด่ง  จากการเปรียบเทียบอัตราการใช้แหล่งทรัพยากรมนุษย์และส่วนร่วมในเศรษฐกิจระหว่างสถานประกอบการภาครัฐกับสถานประกอบการภาคเอกชนปรากฎว่า ในช่วงปี๒๐๐๖ถึงปี๒๐๑๐ สถานประกอบการภาครัฐคิดเป็นร้อยละ๔๕ของยอดเงินทุนแต่คิดเป็นร้อยละ๒๘ของจีดีพีเท่านั้น ส่วนสถานประกอบการภาคเอกชนคิดเป็นร้อยละ๒๘ของยอดเงินทุนแต่คิดเป็นร้อยละ๔๖ของจีดีพี  ปัจจุบัน เศรษฐกิจภาคเอกชนคิดเป็นกว่า๒ใน๓ส่วนของจีดีพีและ๓ใน๔ส่วนของมูลค่าการผลิตอุตสาหกรรม สร้างงานทำหลายตำแหน่ง แต่ในเศรษฐกิจภาคเอกชนมีสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมคิดเป็นร้อยละ๙๖ ไม่มีสถานประกอบการขนาดใหญ่ระดับชาติและนานาชาติ ในสภาวการณ์ที่เวียดนามผสมผสานเข้ากับโลกอย่างกว้างลึก สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมยากที่จะมีส่วนร่วมในการผลิตสินค้าป้อนให้ตลาดโลก ดังนั้น การพัฒนาสถานประกอบการขนาดกลางจึงเป็นหนึ่งในหน้าที่สำคัญของรัฐบาลเวียดนาม นายบุ่ยกวางวิง รัฐมนตรีกระทรวงวางแผนและการลงทุนกล่าวว่า“เนื่องจากขาดแคลนสถานประกอบการภาคเอกชน สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมส่งผลให้เวียดนามขาดแคลนอุตสาหกรรมผลิตประกอบ บรรดานักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในเวียดนามจะต้องนำเข้าวัตถุดิบและชิ้นส่วนจากประเทศพวกเขาหรือประเทศอื่นๆทำให้ต้นทุนในการผลิตไม่ได้ถูกกว่าการลงทุนในประเทศของพวกเขา ดังนั้น เวียดนามต้องพัฒนาสถานประกอบการเอกชน สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมทั้งด้านปริมาณและคุณภาพเพื่อสามารถสร้างตำแหน่งงานได้มากขึ้น สถานประกอบการเอกชนอาจพัฒนาในทุกแห่งและผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม อีกทั้งช่วยให้พวกเราลดการพึ่งพาเศรษฐกิจอื่นๆ ”

ในเวลาที่ผ่านมา เวียดนามได้ประสบความสำเร็จในการดึงดูดเงินทุนจากต่างชาติและยอดมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายปีที่ผ่านมาแต่การมีส่วนร่วมในตลาดโลกกลับไม่พัฒนาตามไปด้วย ตามข้อมูลสถิติของธนาคารพัฒนาเอเชียหรือเอดีบี ส่วนร่วมของสถานประกอบการภาคเอกชนเวียดนามในการส่งออกคิดเป็นร้อยละ๑๐เท่านั้น แทบทุกสถานประกอบการต่างชาติที่ลงทุนในเวียดนามต่างนำเข้าวัตถุดิบในการผลิต ส่วนร่วมสำคัญของสถานประกอบการภายในประเทศในการผลิตสินค้าเพื่อป้อนให้ตลาดโลกหยุดอยู่แค่การจัดสรรแรงงานเท่านั้น ดังนั้น มูลค่าการผลิตและผลิตภัณฑ์จึงไม่สูง ปัจจุบัน รัฐบาลเวียดนามกำลังวางยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนในระยะยาวและพัฒนาสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมที่สามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุนต่างชาติ การส่งออกและช่วยเหลือสถานประกอบการขนาดเล็กเพื่อพัฒนาชมรมสถานประกอบการอย่างมีประสิทธิภาพ นายหวูเตี๊ยนโหลกประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมกล่าวว่า“บรรดาสถานประกอบการต้องวางยุทธศาสตร์ทางธุรกิจของตนให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ในระยะยาวโดยมีการปรับปรุงระเบียบทางนิตินัยเพื่อให้สถานประกอบการมีความมั่นใจในการดำเนินงานในบรรยากาศการทำธุรกิจที่ปลอดภัยและได้รับการปกป้องสิทธิผลประโยชน์”

ในกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของเวียดนามในอนาคตส่วนใหญ่ต้องอาศัยการขยายการเชื่อมโยงเพื่อเข้าร่วมการผลิตสินค้าป้อนให้ตลาดโลกและสร้างความหลากหลายของกิจกรรมลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ การปรับปรุงระเบียบและสร้างบรรยากาศการทำธุรกิจที่สะดวกให้แก่สถานประกอบการมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในสภาวการณ์นี้ การที่รัฐบาลเวียดนามผลักดันการพัฒนาภาคเอกชนภายในประเทศเป็นแนวทางที่ถูกต้องเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนที่สำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ความเป็นอิสระและพึ่งพาตนเองของหน่วยงานการผลิตในเวียดนามอันเป็นการสร้างโอกาสเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนให้แก่ประเทศในอนาคต./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด