ด่านเบิ่ว – เครื่องดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคนเวียดนาม

(VOVworld) - ด่านเบิ่ว หรือ พิณสายเดียวคือหนึ่งในเครื่องดนตรีพื้นเมืองของเวียดนาม เมื่อเอ่ยถึงประเทศเวียดนาม ก็ต้องเอ่ยถึงประเทศแห่งพิณสายเดียว โดยกวี Meray  ชาวฝรั่งเศสได้ชื่นชมด่านเบิ่วหรือพิณสายเดียวของเวียดนามว่า “ด่านเบิ่วเปรียบเสมือนคนเวียดนาม แม้จะดูเรียบง่ายแต่กลับมีเสียงสดใสไพเราะน่าฟังและมีคุณลักษณะที่หลากหลาย” 


(VOVworld) - ด่านเบิ่ว หรือ พิณสายเดียวคือหนึ่งในเครื่องดนตรีพื้นเมืองของเวียดนาม เมื่อเอ่ยถึงประเทศเวียดนาม ก็ต้องเอ่ยถึงประเทศแห่งพิณสายเดียว โดยกวี
Meray  ชาวฝรั่งเศสได้ชื่นชมด่านเบิ่วหรือพิณสายเดียวของเวียดนามว่า “ด่านเบิ่วเปรียบเสมือนคนเวียดนาม แม้จะดูเรียบง่ายแต่กลับมีเสียงสดใสไพเราะน่าฟังและมีคุณลักษณะที่หลากหลาย” เมื่อเร็วๆนี้ ณ กรุงฮานอย ได้มีการจัดการเสวนาเกี่ยวกับด่านเบิ่ว หรือ พิณสายเดียวของเวียดนามในกรอบงานเฟสติวัลดนตรีสมัยใหม่เอเชีย–ยุโรปครั้งที่ 2 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้เพื่อนมิตรชาวต่างชาติและประชาชนเวียดนามมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับพิณสายเดียวที่เป็นเอกลักษณ์ของเวียดนาม

ด่านเบิ่ว – เครื่องดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคนเวียดนาม - ảnh 1
ศิลปินยอดเยี่ยม หว่างแองตู๊กำลังเล่นด่านเบิ่ว

“ที่ฮ่องกง ประเทศจีนหรือที่ประเทศอังกฤษไม่มีเครื่องคนตรีชนิดนี้ เรามักจะเล่นพิณ2 สายขึ้นไป ดังนั้นเครื่องดนตรีนี้ของเวียดนามน่าสนใจมาก”
ดร. Yip Ho Kwen Austin อาจารย์สาขาวิชาดนตรีคณะศิลปะของมหาวิทยาลัย Baptist ฮ่องกง ประเทศจีนกำลังดื่มดํ่าเคลิบเคลิ้มในมนต์เสน่ห์ของเสียงด่านเบิ่วที่บรรเลงประกอบเพลง “Speak Softly Love”จากการแสดงของศิลปินยอดเยี่ยม หว่างแองตู๊  ณ  ห้องเรียนของสถาบันดนตรีแห่งชาติเวียดนาม  โดยดร. Yip Ho Kwen Austin และนักวิชาการอีก 100 คน อายุตั้งแต่ 25 – 60 ปีจากสถาบันดนตรีและมหาวิทยาลัยต่างๆในทวีปเอเชีย ยุโรป รวมทั้งทวีปลาตินอเมริกาและออสเตรเลียกำลังรับชมการแสดงดังกล่าว  ศิลปินยอดเยี่ยม หว่างแองตู๊สวมเสื้อสีขาว กางเกงขายาว กำลังยืนเล่นด่านเบิ่ว หรือ พิณสายเดียวที่ถูกวางบนชั้นเหล็ก สูง 60ซม.  มือขวาถือไม้แท่ง ความยาว 4.5ซม.เพื่อใช้ดีดสายพิณให้เกิดเสียง ส่วนมือซ้ายจับแท่งไม้อ่อนที่ทำจากไม้ไผ่หรือเขาควายเป็นคันโยกเพื่อปรับความหย่อนตึงของสายทำให้เสียงด่านเบิ่วไพเราะจับใจและกังวาลมาก ศิลปินประชาชนเหงวียนเตี๊ยน ผู้ที่หลงไหลด่านเบิ่วและ เป็นวิทยากรของการเสวนาครั้งนี้ได้เผยว่า“ในครอบครัวใหญ่54ชนเผ่าของเวียดนาม แต่ละชนเผ่าต่างมีเครื่องดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตน ด่านเบิ่วหรือพิณสายเดียวคือเครื่องดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชนเผ่ากิง ประเทศต่างๆในโลก เช่น กัมพูชา จีน สาธารณรัฐเกาหลีและเซเนกัล เป็นต้นก็มีพิณสายเดียว แต่พิณสายเดียวที่มีชื่อว่า ด่านเบิ่วนั้นถือเป็นเครื่องดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเวียดนามเพียงประเทศเดียว โดยเฉพาะเสียงด่านเบิ่วที่คุณได้รับฟังนั้นมิใช่เสียงธรรมชาติ แต่เป็นการชดเชยระดับเสียงที่สามารถทำเสียงได้หลายเสียงและหลายตัวโน้ต  ส่วนสำหรับชื่อด่านเบิ่วนั้นมีที่มาคือเมื่อหลายพันปีก่อน คนเวียดนามได้ใช้ลูกน้ำเต้าแห้งยึดติดกับแท่งไม้อ่อนเพื่อเป็นการสะท้อนให้เกิดเสียงก้องกังวาลขึ้น”
ด่านเบิ่ว – เครื่องดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคนเวียดนาม - ảnh 2
ศิลปินประชาชนเหงวียนเตี๊ยนแนะนำเกี่ยวกับด่านเบิ่ว

ในสมัยก่อน มีแต่คนที่ประกอบอาชีพร้องเพลงเสิ่มหรือเพลงขอทานที่นั่งเล่นด่านเบิ่วและร้องเพลงขอทานตามตลาด สถานีรถไฟและสถานีขนส่งต่างๆ ซึ่งด่านเบิ่วในสมัยนั้นสามารถเล่นตัวโน้ตเพียงไม่กี่ตัว  ภายหลังการปฏิวัติเดือนสิงหาคมปี 1945 รัฐเวียดนามได้มีมติให้จัดตั้งคณะศิลปะต่างๆ โดยบรรดาศิลปินที่สมัครเข้าคณะศิลปะดังกล่าวมีหน้าที่พัฒนาด่านเบิ่วให้สอดคล้องกับความนิยมของผู้ฟังผู้ชม ในสงครามต่อต้านนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกาเพื่อกู้ชาติ บรรดาศิลปินได้นำด่านเบิ่วไปแสดงตามสมรภูมิต่างๆทั่วประเทศ  จนถึงปัจจุบัน ด่านเบิ่วได้รับการพัฒนาจากพิณสายเดียวธรรมดาเป็นพิณสายเดียวไฟฟ้า ส่วนเสียงของด่านเบิ่วได้รับการปรับปรุงให้ได้มาตรฐานเพื่อใช้ในวงออเคสตรา  ศิลปินประชาชนเหงวียนเตี๊ยนกล่าวว่า“แท่งไม้อ่อนที่ยึดติดกับลูกน้ำเต้าแห้งถือเป็นส่วนประกอบสำคัญของด่านเบิ่วที่สะท้อนชีวิตจิตใจและเสียงพูดของชาวเวียดนามเนื่องจากสามารถปรับความสูงตํ่าของตัวโน้ต ซึ่งไม่มีเครื่องดนตรีใดๆในโลกสามารถเล่นแบบนี้ได้”

ด่านเบิ่ว – เครื่องดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคนเวียดนาม - ảnh 3
การแสดงเพลงพื้นเมืองทำนองเสิมกับด่านเบิ่วของศิลปินหว่างแองตู๊

คำแนะนำและการสาธิตการเล่นด่านเบิ่วอย่างมีชีวิตชีวาของศิลปินประชาชนเหงวียนเตี๊ยนได้สร้างความประทับใจให้กับบรรดาผู้ชม รวมถึงนาย Moises Bertran นักแต่งเพลงและศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโคลอมเบียและดร. Yip Ho Kwen Austin อาจารย์สาขาวิชาดนตรีคณะศิลปะของมหาวิทยาลัย Baptist ฮ่องกง ประเทศจีน
“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาเวียดนาม ก่อนการเยือนเวียดนามครั้งนี้ ผมได้ศึกษาเกี่ยวกับด่านเบิ่วผ่านทางอินเตอร์เน็ตหลังได้รับข่าวว่า จะมีการจัดการเสวนาเกี่ยวกับด่านเบิ่ว ผมชอบด่านเบิ่วมาก ผมคิดว่า เสียงของด่านเบิ่วสะท้อนชีวิตจิตใจของคนเวียดนามที่ลงลึกมาก โดยเฉพาะเสียงของด่านเบิ่วเปรียบเหมือนเสียงพูดของคนเวียดนาม”
“การเสวนาครั้งนี้ได้ช่วยให้ผมมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับเครื่องดนตรีที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อนคือด่านเบิ่ว ซึ่งถือเป็นเครื่องดนตรีที่พิเศษมาก”
โอกาสนี้ บรรดาผู้ชมได้ชมและรับฟังการแนะนำเกี่ยวกับพิณสายเดียวธรรมดาและพิณสายเดียวไฟฟ้า โดยพิณสายเดียวธรรมดาประกอบด้วยส่วนประกอบ 4 ส่วนคือกระบอกไม้ไผ่ขนาดเล็ก ลูกน้ำเต้าแห้ง แผ่นไม้ขนาดสี่เหลี่ยมและสายเอ็นหนึ่งเส้น โดยแผ่นไม้และกระบอกไม้ไผ่จะถูกยึดติดกันเป็นมุมฉาก สายเอ็นนั้นจะถูกขึงไว้กับกระบอกไม้ไผ่และยึดไว้กับปลายของแผ่นไม้ ส่วนลูกน้ำเต้าแห้งจะถูกยึดติดกับแท่งไม้อ่อนเพื่อสะท้อนให้เสียงก้องกังวาลขึ้น   สำหรับพิณสายเดียวไฟฟ้า ส่วนที่เป็นตัวพิณจะไม่ใช้กระบอกไม้ไผ่หากใช้กล่องไม้ยาวประมาณ1เมตรแทน มีการฝังมุกเคลือบน้ำยาให้ดูเงางามและใช้สายกีตาร์ไฟฟ้าแทนสายเอ็นแบบดั้งเดิม  โดยเฉพาะสิ่งที่ขาดมิได้คือแท่งไม้อ่อนที่ทำจากไม้ไผ่หรือเขาควาย  ศิลปินประชาชนเหงวียนเตี๊ยนกล่าวว่า“ปัจจุบัน สถาบันดนตรีเวียดนามสามารถฝึกอบรมผู้เล่นด่านเบิ่วมืออาชีพที่สามารถเล่นในวงดนตรีพื้นเมือง ระบบเสียงแบบ Pentatonic วงซิมโฟนีออร์เคสตร้าและวงดนตรีผสม ส่วนผลงานประพันธ์สำหรับการบรรเลงด้วยวงออร์เคสตรามีมากมาย เช่น “Dialogue”ของนักดนตรีโด๊ะห่งกวนและ concestino อื่นๆของนักดนตรีจูมิงและนักดนตรีเจิ่นกวี๊”
ปัจจุบัน ดนตรีเวียดนามกำลังผสมผสานเข้ากับกระแสดนตรีโลก ด่านเบิ่ว หรือ พิณสายเดียวของเวียดนามถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเวียดนามในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับเพื่อนมิตรต่างชาติ เหมือน น๊อนล้าหรืองอบเวียดนามและอ๊าวหย่าย หรือ ชุดประจำชาติของสตรีเวียดนาม ดั่งเช่นคำพูดของศิลปินประชาชนเหงวียนเตี๊ยนว่า เวียดนามมีอ๊าวหย่าย มีน๊อนล้าและมีด่านเบิ่ว.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด